หน้าแรก





ขอต้อนรับเข้าสู่ On.My.Way ที่รวบรวมเรื่องราวการเดินทาง  และภาพความทรงจำต่างๆ ที่เราไปมา และอยากเขียนข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ทุกคนใช้ในการวางแผนการเดินทางของตัวเองด้วยค่ะ

หัวข้อหลักๆในการรีวิวมีตามนี้





รีวิวที่พักทำเลดี Hotel Movieworld (สถานี Spiez) สำหรับเที่ยว Interlaken/Zermatt (Switzerland)


วิวจากห้องอาหารของโรงแรม


ด้านหน้าของสถานี Spiez

สถานี SPiez ไม่ใหญ่มาก แต่เป็นชุมทางรถไฟ เป็นจุดต่อรถไปที่ต่างๆ

เนื่องจากเรามีแพลนจะไปเที่ยว Grindelwald และ Zermatt แบบยืดหยุ่น เพราะต้องดูสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เราเลยคิดว่าควรจะหาที่พักที่เดินทางสะดวกสำหรับเป็นจุดศูนย์กลางเดินทาง  ไปเช้าเย็นกลับ

 

ทางเลือกมี Interlaken/Thun/Spiez ซึ่งเป็นจุดต่อรถไฟที่เดินทางไปได้ง่ายๆ ทุกที่  แต่พบข้อจำกัด ดังนี้

  • Interlaken ราคาที่พักใกล้สถานี Interlaken Ost ราคาค่อนข้างสูง และถ้าจะไป Zermatt จากสถานีนี้ก็ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่ Spiez อยู่ดี
  • Thun เป็นเมืองใหญ่ประมาณนึง มีที่ให้เดินเที่ยวในเมือง แต่ก็ราคาที่พักก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน

สุดท้ายเลือกที่ Spiez ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Thun และ Interlaken และสถานีก็เล็กกว่า Thun และ Interlaken Ost  แต่เราต้องการทำเลติดสถานีรถไฟเลย เพื่อให้เป็นฐานการเดินทาง ตัวเมืองเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านเท่า Thun หรือ Interlaken มีท่าเรือให้ลงล่องเรือด้วย เราไปช่วง ต.ค. เป็นช่วงที่ไร่องุ่นกำลังเป็นสีเหลืองสวยค่ะ สว่างสดใสไปทั้งเมือง

 

จากสถานี Spiez ไปแต่ละที่ ใช้เวลาประมาณนี้ (เราใช้ Swiss Travel Pass อยู่แล้ว เลยไม่ต้องคิดเรื่องราคาค่าตั๋วรถไฟ) (รายละเอียดการใช้ swiss pass เขาไหนฟรี เขาไหนลดราคา ตั๋วรถไฟไหนขึ้นฟรี ดูได้ที่ post นี้ค่ะ https://www.onmywayyyyy.com/2020/01/swiss-travel-pass-2020.html)

  • สถานี Zermatt 1.38 ชม. (เปลี่ยนขบวน 1 ครั้ง ที่ Visp)
  • สถานี Grindelwald 1.19 ชม. (สำหรับไปจุงเฟรา) (เปลี่ยนขบวน 1 ครั้ง ที่ Interlaken Ost)
  • สถานี Thun 8 นาที
  • สถานี Bern 33 นาที
  • สถานี Zurich 1.33 ชม.

 

แล้วก็เจอ Hotel Movieworld (Spiez)  ใกล้สถานีมาก ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น (เข้าใจว่าเป็นโรงหนังด้วย) อยู่ติดกับซุปเปอร์ Migros เลยค่ะ อย่างน้อยก็มีของกิน ไม่อดแน่ๆ วิวก็สวย เลยเลือกพักที่นี่ค่ะ


สรุป

  • ทำเลดีมากๆ ติดสถานีรถไฟ เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการทำ one day trip ไปเที่ยวตามเขาต่างๆ ที่ต้องเช็คสภาพอากาศ
  • อาหารเช้าไม่หลากหลาย (ไม่ใช่ Buffet เสิร์ฟเป็นจาน) แต่อร่อย และอิ่ม เจ้าของโรงแรม (ผู้หญิงสูงวัย) ใจดีมาก มีวันที่เราออกเช้า กินไม่ค่อยทัน เค้าห่ออาหารเช้าในเราไปกินบนรถไฟค่ะ และมีวันนึงที่เราซื้ออาหารแช่แข็งมาจาก Migros เค้าเสนอจะเอาไปอุ่นร้อนให้เราด้วยค่ะ ใจดีมากๆ
  • ห้องไม่ใหญ่มาก facilities ในห้องธรรมดาๆ แต่สะอาดดี
  • มีที่จอดรถ 
  • มีลิฟท์
  • รับฝากกระเป๋าหลัง check out
  • ไม่มีแอร์ ถ้าไปหน้าร้อน อาจจะร้อนหน่อยค่ะ
จองที่พัก คลิก ที่นี่ ได้เลยค่ะ


ทางเข้าห้องอาหาร


ห้องนอนไม่ใหญ่ แต่สะอาดดี ฝั่งที่เราจองไม่มีวิวนะคะ เป็นบ้าน แต่ไม่ซีเรียส เพราะไปเที่ยวข้างนอกทั้งวันอยู่แล้วค่ะ 

น้ำส้มกับไก่ย่าง ซื้อมาจากสถานี interlaken ost ไก่อร่อย แต่น่าจะมีน้ำจิ้มแจ่ว 5555

อาหารเช้า เป็นเซท ไม่ได้เป็น Buffet แต่อร่อยทุกอย่างเลย กินหมดคืออิ่ม วิวก็สวยมาก

วิวจากห้องอาหารของโรงแรม


Migros ติดกับที่พัก ของกินเยอะค่ะ ผลไม้ก็เยอะ ชอบมาก

วันฟ้าใส อากาศดี เหมาะแก่การไปเที่ยวเขาค่ะ


ถนนหลังสถานี น่าเดินเล่น ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงามมากค่ะ เมืองเล็กๆ สงบๆ เงียบๆ



กลางคืนยิ่งเงียบสงบ




ร้านอาหาร “สมบูรณ์โภชนา สาขาสุรวงศ์” ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”

 

😀แนะนำร้านอาหาร “สมบูรณ์โภชนา สาขาสุรวงศ์
ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน







เนื่องจากเข้าพักโรงแรม Banyan Tree Bangkok ในโครงการเที่ยวด้วยกัน ได้คูปองส่วนลด 40% มา ลดสูงสุด 1,200 บาท (600+600 บาท สำหรับ 2 ห้อง)

เลยหาร้านอาหารที่ใช้คูปองได้ ปรากฏเจอร้านสมบูรณ์โภชนาที่อยากไปทานอยู่แล้ว และช่วงนี้มีโปรโมชั่นอาหารเซ็ทด้วย ราคาโอเคมาก โอกาสทองชัดๆ จัดไปเลยค่ะ

👍เมนูที่สั่งมี

1. ปูผัดผงกะหรี่ – อร่อยสมศักดิ์ศรีตำนานปูผัดผงกะหรี่ มีเนื้อปูก้อนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในไข่นะคะ เมนูนี้ต้องสั่งข้าวสวยเยอะ ๆ เลยค่ะ คลุกกับข้าวอร่อยมาก

2. ปลากะพงทอดน้ำปลา - ปลาตัวใหญ่ ทอดมาดี กรอบนอกนุ่มใน แต่สำหรับเราน้ำราดอาจจะหวานซักนิดนึง

3. ต้มยำกุ้ง – รสชาติเข้มข้น แซ่บหลาย

4. ผัดผักบุ้งไฟแดง - จานใหญ่มาก เหมือนยกผักบุ้งทั้งแปลงมาผัด ผักบุ้งยังเขียว ไม่เหนียว ไม่เค็มมาก คีบเพลินๆ หมดจานไม่รู้ตัว

5. ยำวุ้นเส้น – รสชาติจัดจ้าน ชอบที่ใส่หอมแดง และมีกุ้งแห้งทอดกรุบๆ

6. ข้าวเปล่า น้ำเปล่า Pepsi น้ำแข็ง

💲ทั้งหมดนี้ จ่าย 1,126 บาท (ราคาหลังหักส่วนลด/รายการที่ 1-3 เป็นเซ็ท 999 บาท สั่งเป็นเซ็ทคุ้มกว่าสั่งแยกรายการ)

สำหรับคนที่กำลังหาที่ใช้คูปอง “เราเที่ยวด้วย” ก็ลองไปทานร้านสมบูรณ์โภชนา ได้ทุกสาขาเลยนะคะ


🎯สอบถามข้อมูลและดูเมนูได้ที่
https://www.facebook.com/somboonseafoodrestaurant




รีวิวการเช่ารถในเยอรมัน แบบละเอียด : autoeurope/hertz






ก่อนการเดินทาง
·     ค้นหารถเช่าราคาถูก เราเลือกค้นหารถผ่าน autoeurope ได้รถ Ford Focus ของ Hertz ราคา 36 Euro ต่อวัน ราคานี้รวมประกันรวมประกันแบบ Super cover ประกันรถหาย-ยาง-ล้อ ฯลฯ No-Deduct/ 0 Excess ตัดเงินผ่านบัตรเต็มจำนวน รับรถที่สถานีรถไฟ Munich คืนที่  Freiburg มีค่า one-way fee 26.05 ยูโร จ่ายตอนรับรถที่มิวนิค จองรถได้ที่นี่ 👉  http://bit.ly/2UxwjKz 



รายละเอียดการเช่ารถ อ่านให้ดีนะคะ ข้อควรรู้ ข้อห้ามต่างๆ ราคา เงื่อนไข อยู่ในเอกสารนี้แล้ว 



·     ใบขับขี่สากล ถึงไม่มีรายชื่อประเทศเยอรมันในสนธิสัญญาอนุญาตให้ขับขี่ในใบขับขี่สากล แต่ตอนรับรถต้องใช้ประกอบกับใบขับขี่ไทยค่ะ ค่าทำ 505 บาท มีอายุ 1 ปี รายละเอียดดูได้ 👉ที่นี่
·     ศึกษาป้ายจราจรและการจ่ายค่าจอดรถ  เพราะสำคัญมาก บางทีไป search หาวิธีหน้างานหาไม่เจอค่ะ การจอดรถข้างทางก็งงๆ ไม่ได้ศึกษาก่อน ไม่มีใครให้ถามด้วย สุดท้ายเลยหาที่จอดแบบ garage ซึ่งแพงกว่า ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลไปก่อนค่ะ ดูได้จาก กระทู้ pantip1  กระทู้ pantip 2 youtube1 youtube2 youtube3
·     ปักหมุดที่จอดรถ/ที่เที่ยว ดูใน google map แล้วปักหมุดที่จอดรถไว้เลยค่ะ ทั้งที่พัก ที่เที่ยว
·     Sim ต่างประเทศ แนะนำให้ซื้อซิมที่สามารถโทรออกและรับสายได้ เพราะเวลาเกิดเหตุอะไรจะได้สามารถโทรสอบถาม/ขอความช่วยเหลือ/ติดต่อบริษัทรถเช่า/ประกัน ได้ ของเราซื้อไป 2 แบบ
o  Sim2fly  899 บาท โทรออกได้ (ค่าโทรสูงสุดนาทีละ 35 บาท) รับสายได้ (เยอรมัน 15 บาท) แต่ต้องเติมเงิน ซึ่งจะวุ่นวายมากเวลาฉุกเฉินแต่เงินในซิมไม่มี ต้องเติมเงินก่อนรับสาย/โทรออก ข้อดีคือเน็ตเร็ว
🔼 อย่าลืมลงทะเบียนก่อนใช้งาน
o  Wise Sim 599 โทรออกฟรีภายในยุโรป รับสายฟรี ไม่ต้องเติมเงินเพิ่มแล้ว แต่ข้อเสียคือเน็ตช้ากว่า Sim2fly บางทีหมุนติ้วๆๆ
🔼 ศึกษาวิธีลงทะเบียนก่อนใช้งาน
ใส่ซิมแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งซองใส่ซิม ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน เผื่อต้องใช้เบอร์โทร สำหรับการโทรเข้า

·     ประกันเดินทาง ถึงแม้ประกันรถเช่าจะ No Deduct แต่เราก็เลือกที่มีประกันเดินทางที่คุ้มครองความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่าด้วยเผื่อๆไว้ สำหรับคนขับรถด้วย ประกันเดินทางที่คุ้มครองรถเช่าเท่าที่หาข้อมูลมามี
o  MSIG แผน Easy 1   จ่ายตามจริงไม่เกิน 25,000 บาท (ต้องเป็นรถเช่าที่มีประกันและบริษัทรถเช่ามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เคลมได้เฉพาะค่าความเสียหายส่วนแรก ไม่รวมค่าดำเนินการ (ค่าแอดมิน)) 👉 รีวิวการเคลมประกัน   ซื้อประกัน MSIG ได้ที่ 👉 http://bit.ly/2Hdfsp6
o  ไทยวิวัฒน์ แผน PLATINUM   จ่ายตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท (รถเช่าต้องเป็นประกันชั้นหนึ่ง ต้องมีใบอนุญาตเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดที่นั่งรวมทั้งคนขับและมีน้ำหนัก ได้รับอนุญาตสูงสุดสามตัน ไม่คุ้มครอง มอเตอร์ไซค์ รถบ้าน รถบ้านพ่วง รถยี่ห้อ Ferrari, Bentley, Maybach, Rolls Royce, Aston Martin, Porsche, Lamborghini, Jensen, Lotus, McLaren, Maserati, Jaguar, Buggatti, pyker และ Corvette ซื้อประกัน TVI ได้ที่  👉 http://bit.ly/2PE1Fwk
o  AIG Plan A  จ่ายตามจริงไม่เกิน 25,000 บาท (ให้ความคุ้มครองความรับผิดชอบส่วนแรกใดๆ ที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์รถเช่าที่ผู้เอาประกันภัยซื้อเพื่อคุ้มครองรถเช่า สัญญาเช่ารถต้องกำหนดให้ผู้เอาประกันภัยซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง ในกรณีนี้ต้องเช่ารถจากบริษัทที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย)   ซื้อประกัน AIG ได้ที่ 👉 http://bit.ly/38Z9SCG


การรับรถ Pick-up

·     จุดรับรถที่สถานีรถไฟ Munich จะอยู่ตรง DB Lounge 👉แผนที่ เราเข้าตรงชานชาลา และเงยหน้าขึ้นไปจะมีชั้นลอย เป็น counter ของบริษัทเช่ารถเกือบทุกเจ้าเลยค่ะ
ชานชาลาในสถานี Munich

·     วันรับรถใช้ Passport + บัตรเครดิต (ต้องเป็นชื่อคนขับรถและวงเงินต้องเหลือ 200 ยูโร) +ใบขับขี่ตัวจริง + ใบขับขี่สากล (เจ้าหน้าที่ hertz บอกว่าต้องใช้ทั้ง 2 ใบ – ตอนแรกอ่านมาบอกว่าใช้ใบขับขี่ไทยใบเดียวพอ เกือบไม่ทำใบขับขี่สากลไปด้วย โชคดีทำไปเผื่อ กันเหนียวไว้ก่อน)
·     การเช่าผ่าน autoeurope + Hertz สบายใจมาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าประกันเราเป็นแบบ Super cover แล้ว ไม่ต้องกังวล  และไม่เซ้าซี้ให้ซื้อประกันเพิ่มใดๆ เลย  
·     ถ้าออกนอกเยอรมันไปประเทศอื่นต้องจ่ายค่า Cross Border เป็นเงิน 29.75 ยูโร  (เราขับแค่ในเยอรมันเลยไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าออกเดินทางไปแล้วเปลี่ยนใจ จะขับข้ามประเทศ ให้โทรแจ้ง call center ของ Hertz ก่อน)
·     รถ Mercedes BMW SUV ห้ามขับไป Italy
·     ถ้าขับเข้า Austria, Switzerland ต้องซื้อสติ๊กเกอร์ติดเพิ่ม เรียกว่า Vignette สำหรับใช้ Highway ถ้าไม่ซื้อ จะโดนปรับ

Counter Hertz คนไม่เยอะมาก ขวามือคือรายละเอียดการเช่ารถของเราที่ Counter print ให้

·     พอจัดการเรื่องเอกสารเช่ารถเสร็จ ต้องไปรับรถที่ Garage ห่างจาก DB Lounge ประมาณ 200 เมตร 👉ดูแผนที่
·     เราจองรถ Ford Focus or similar Compact 4 Door Car Automatic With A/C ตอนรับรถจริงได้ upgrade เป็น SUV Mitsubishi Outlander 2.4 มี Sunroof 
สีแดงเด่นมากจ้า


·     รถที่ได้มี GPS ในตัว ซึ่งดีมากกกกกกกก เนื่องจาก GPS นี้จะบอกลิมิตความเร็วของเส้นทางที่เราไปด้วย ช่วยให้เราไม่โดนปรับขับรถเร็วเกิน
กล้องช่วยจอด มองเห็นจากมุมบน ทำให้ช่วยจอดในที่แคบๆ ได้ดีกว่าเดิม 


หน้าจอ Navi 
·     การใช้ GPS ในรถ เราสามารถกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้ตั้งเป็นปลายทางได้เลย ไม่ต้องกดอะไรให้วุ่นวาย  ถามว่า google map เพียงพอมั้ย ก็ใช้ได้นะคะ คุ้นเคย แต่ต้องคอยดูป้ายบอกทางว่าจำกัดความเร็วที่เท่าไหร่ ถ้าขับเกิน speed limit ค่าปรับเริ่มต้นที่ 10 ยูโร สูงสุด 600 ยูโร ซึ่งค่าปรับเป็นอัตราก้าวหน้า ดูค่าปรับจราจรแบบละเอียดได้ 👉ที่นี่
·     ถ้าโดนปรับ นอกจากค่าปรับที่เราต้องจ่ายให้รัฐแล้ว บริษัทเช่ารถจะคิดค่าธรรมเนียมดำเนินการด้วย ราคา 35.40 ยูโรต่อการปรับ 1 ครั้ง ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถไปเคลมประกันเดินทางได้นะ

บรรยากาศข้างทางสวยงามมาก เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี

การคืนรถ Drop-off
·     จุดคืนรถอยู่ที่ FREIBURG SOUTH CITY OFFICE ห่างจากสถานีรถไฟ Freiburg ประมาณ 3 กม. 👉ดูแผนที่ ดังนั้นของเราต้องแวะไปที่โรงแรมก่อนเพื่อฝากกระเป๋า และรับตั๋วรถขนส่งสาธารณะฟรี (free city ticket) ที่โรงแรม เพื่อใช้นั่งรถบัสกลับที่พัก (เราพักที่ InterCity Freiburg มี  free city ticket แจกให้สำหรับเดินทางในตัวเมืองฟรี ทั้งรถบัส รถราง จุดจอดรถตรง Garage ใต้ดินหน้าโรงแรมได้ 20 นาที ริมถนนจอดไม่ได้นะ โดนปรับ ดังนั้นเรามีเวลาน้อยมากในการฝากกระเป๋าและรับตั๋ว ดังนั้นรีบขอ city ticket ก่อนเลย อย่างอื่นไว้มาคุยทีหลัง 5555)

·     ก่อนคืนรถก็เติมน้ำมันให้เต็มถังก่อน ค่าน้ำมัน  1.389 ยูโร ต่อ 1 ลิตร ที่ปั๊ม Union-Tankhof e.K. 👉แผนที่ อยู่ระหว่างทางจากโรงแรมตรงสถานี Freiburg กับจุดคืนรถ
ต้องเติมน้ำมันเอง ไม่มีเด็กปั๊มนะ

ราคาน้ำมัน  ณ วันนั้น


·     ราคาน้ำมันทุกชนิดในเยอรมัน คลิกเข้าไปจะมีราคาหน้าปั๊มแต่ละที่  👉 https://de.fuelo.net/prices/date/2020-02-24?lang=en 




·     ตอนคืนรถไม่วุ่นวาย เจ้าหน้าที่เห็น Super Cover ก็แทบไม่เช็คอะไรมากค่ะ เพราะประกัน cover หมดแล้ว
·     คืนรถเสร็จ เดินออกมาป้ายรถเมล์ นั่งรถเมล์สาย 11 กลับที่พักที่สถานีรถไฟ Freiburg (Freiburg, Hauptbahnhof) นั่งไป 7 ป้าย ใช้เวลา 12 นาที บนรถมีป้ายบอกทางตลอด ไม่หลงแน่นอน

  
Klook.com



เช่ารถ sixt เยอรมัน pantip ,เช่ารถ hertz เยอรมัน,เช่ารถยุโรป,เช่ารถ ยุโรป sixt pantip, ขับรถในเยอรมัน ใบขับขี่,เช่ารถ sixt เยอรมัน pantip,เช่ารถ เยอรมัน pantip,เช่ารถ ยุโรป,เช่า รถ ยุโรป sixt pantip,การ จอด รถ ที่ เยอรมัน,เช่า รถ hertz ยุโรป,เช่า รถ rentalcars pantip,การเช่ารถในยุโรป,เช่ารถ อิตาลี pantip,เช่ารถ ยุโรป sixt pantip,เช่า gps ไป ยุโรป,เช่า รถขับเองยุโรป,รีวิว ขับ รถ ใน ยุโรป,เช่า รถ hertz ยุโรป,