รีวิวจองคิวทำ passport online ล่วงหน้า ไปถึงใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีเสร็จ !! (update สิงหาคม 2562)



เงื่อนไขการลงทะเบียนล่วงหน้า 
1. การลงทะเบียนล่วงหน้าใช้สำหรับการยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทางธรรมดา (หนังสือเดินทางราชการไม่ได้) เท่านั้น
2. สมัครสมาชิก 1 บัญชี ต่อ 1 ท่าน ต่อ 1 รายการจอง
3. สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ 1 วันทำการ (ไม่นับวันที่ทำรายการ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) และทำรายการล่วงหน้าได้ไม่เกิน 5 วันทำการ
4. ท่านต้องมารายงานตัวและแสดง QR Code ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ท่านลงทะเบียนขอรับบริการไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเวลาขอรับบริการ มิฉะนั้นการลงทะเบียนของท่านจะถูกยกเลิก
5. กรณีที่การลงทะเบียนถูกยกเลิกตามเงื่อนไขข้อที่ 3 ท่านจะไม่สามารถใช้บริการลงทะเบียนล่วงหน้าได้อีกภายใน 30 วัน

วิธีการลงทะเบียนจองคิวทำ Passport ล่วงหน้า  กรณีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
1. เตรียมบัตรประชาชน สำหรับใช้กรอกข้อมูล 
2. เข้าเว็บ www.passport.in.th/eService/ 
3. เลือก “ลงทะเบียนทำ Passport” 
4. เลือกวิธีลงทะเบียน ของเราใช้ link กับ google mail สะดวกดีค่ะ เพราะพอทำเสร็จ ระบบจะส่งทุกอย่างเข้า Gmail เลย
5. เลือกสำนักงานหนังสือเดินทางที่ต้องการจองคิวล่วงหน้า ขณะนี้ระบบเปิดให้บริการจองคิวเฉพาะที่
  • กรมการกงสุล (ถนนแจ้งวัฒนะ) –  สำหรับเล่มด่วนได้รับภายในวันเดียวกัน สามารถทำได้เฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น และต้องเข้ารับบริการก่อน 11 โมง จึงจะได้รับเล่มภายในวันนั้น มีค่าธรรมเนียม 3,000 บาท ต้องยื่นเอกสารและชำระเงินให้เสร็จสิ้นภายใน 12.00 น. และสามารถรับเล่มได้ตั้งแต่เวลา 15.30 - 16.30 น. 
  • ศรีนครินทร์ (ธัญญาพาร์ค)
  • ปิ่นเกล้า  (เราเลือกทำที่สาขานี้)
  • MRT  คลองเตย 
  • เมืองพัทยา 
6. เลือกวันที่ต้องการทำหนังสือเดินทางฯ
7. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการทำหนังสือเดินทางฯ
8. เลือกวิธีการรับเล่มหนังสือเดินทางฯ
9. กรอกข้อมูลบุคคลอ้างอิง
10. ยืนยันข้อมูลการจอง
11. พิมพ์ข้อมูล QR CODE ที่ระบบแสดงบนหน้าจอเพื่อใช้เป็นหลักฐาน  ถ้าลืมเซฟหรือเซฟไม่ทัน ให้เช็คใน email ที่เราสมัคร จะมีข้อมูลใน email แล้ว
12. ถ้ากรอกข้อมูลผิด ก็เข้าไปแก้ไขได้ แต่ไม่เกิน 5 ครั้ง และไม่เกิน 23.00 น.ก่อนวันนัดทำ passport

วันทำ passport สาขาปิ่นเกล้า
1. ก่อนออกจากบ้านให้เตรียม
  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • เงิน 1,000 บาท ค่าส่ง EMS 40 บาท หรือ Speed Post 60 บาท  
  • เอกสารที่เรา print มาจากระบบจองคิว ที่มี QR Code
  • ถ้ามี Passport เล่มเดิมที่ยังไม่หมดอายุต้องเอาไปด้วย ไม่งั้นจะต้องรับเล่มด้วยตนเอง (ไม่ให้ส่ง ปณ) และเอาเล่มเดิมมาด้วยในวันรับเล่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยกเลิกเล่มเดิมให้  *** เมื่อทำเล่มใหม่แล้ว เล่มเดิมจะใช้ไม่ได้แล้วนะคะ ****

2. เดินทางไป SC Plaza หรือขนส่งสายใต้ใหม่ล่าสุด แผนที่ https://goo.gl/maps/UXR713YbpEAynw39A  ต้องไปถึงก่อนเวลานัด 30 นาที  บริเวณนั้นของกินเพียบ ทั้ง fast food ร้านกาแฟ ตู้ ATM


3. พอเราเดินเข้าไป เลี้ยวขวา ขึ้นบันไดเลื่อนตามป้ายไปเรื่อยๆ ไกลพอสมควรนะ จะเจอสำนักงานหนังสือเดินทางอยู่ชั้น 2 

4. ยื่นบัตรประชาชน บัตรคิว และเจ้าหน้าที่จะยื่นเอกสารให้

5. เดินเข้าไปวัดส่วนสูง จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูอยู่ และให้เราเข้าช่องไปถ่ายรูป ปั๊มลายนิ้วมือ ได้เลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่จองมา ถ้ามีคิวอยู่จะต้องต่อคิวนะคะ
นั่งรอถ่ายรูป

6. พอถ่ายรูปเสร็จ เดินไปจ่ายเงิน ก็เรียบร้อย รับใบเสร็จ  สำหรับคนที่ไม่ได้นำ passport เล่มเก่ามาจะได้ใบรับเล่มหนังสือเดินทางค่ะ ในใบนี้จะระบุหมายเลข Passport วันที่ออกและวันหมดอายุ ตรงนี้สามารถใช้จองตั๋วต่างๆ ได้เลยนะคะ เพราะเลขจะตรงกับใน passport จริงของเราแล้ว


วันรับเล่ม
1. เตรียมบัตรประชาชน ใบรับเล่ม และ passport เล่มเก่า (ถ้ามี)  
2. เดินทางไปที่ SC Plaza ชั้น 2 
3. รับบัตรคิว 
4. รอเรียกคิว
5. ยื่นใบรับเล่ม + passport เล่มเก่า (ถ้ามี) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยกเลิก 
6. รับ passport เล่มใหม่
กระบวนการตั้งแต่ 3-6 ไม่เกิน 5 นาที (ถ้าคิวไม่ยาว)



keyword: passport,พาสปอร์ท, จองคิว, ปิ่นเกล้า, ผ่านเว็บ, รีวิว, review 

Review วีซ่าท่องเที่ยวเยอรมัน แบบฝากยื่น (update สิงหาคม 2019)



 
 เรายื่นวันที่ 28 ส.ค. ได้เล่มวันที่ 31 ส.ค. สรุปวีซ่าผ่าน ได้แบบ mulitiple 90 วัน ปี

🚩ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป การขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen) เยอรมัน ต้องยื่นผ่าน VFS เท่านั้น
🚩ผู้ที่เคยมีเช้งเก้นวีซ่าและทำการพิมพ์ลายนิ้วมือในช่วง 59 เดือน  สามารถ 
  • ให้ผู้อื่นมายื่นเอกสารแทนได้ แต่ผู้สมัครจะต้องทำหนังสือมอบอำนาจสำหรับการยื่นเอกสารแทน  download ได้ที่นี่ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ รับรองสำเนาถูกต้องด้วย 
  • ยื่นคำร้องขอวีซ่าผ่านทางไปรษณีย์  เตรียมเอกสารเหมือนปรกติ แต่ไม่ต้องนัดหมาย และมีค่ายื่นคำร้องผ่าน ปณ เพิ่มเติมจากปรกติอีก 820 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่นี่

ขั้นตอนการยื่น
📆การนัดหมาย เข้าเว็บ นัดหมายของ VFS กรอกเสร็จ print ใบนัดที่มี barcode ออกมาด้วยค่ะ
  1. นัดล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วันก่อนเดินทาง
  2. 1 account นัดหมายได้ 5 คน
  3. สำหรับคนที่ฝากตัวแทนมายื่น ก็ต้องนัดหมายผ่านเว็บนี้เช่นกัน
  4. สำหรับคนที่ยื่นทางไปรษณีย์ ไม่ต้องนัดนะคะ ดูที่นี่  รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่นี่
📂การเตรียมเอกสาร ดูตาม checklist 
เกร็ดเล็กน้อยในการเตรียมเอกสาร
1. การกรอกข้อมูลแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า  กรอกผ่าน videx    กรอกเสร็จให้ save เป็นไฟล์ json ไว้ด้วย เผื่อเกิดต้องแก้ไขจะได้ไม่ต้องกรอกใหม่ทั้งหมด  และพิมพ์ลงกระดาษ เซ็นชื่อ 3 ที่นะคะ ถ้าเซ็นไม่ครบ นับใหม่ให้ครบนะคะ 
  • เปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ที่มุมบนขวา  แนะนำให้เปิด “ใช้ตัวช่วย”  จะช่วยบอกว่าช่องไหนควรกรอกอะไร
  • ถ้ากรอกไม่เสร็จภายในครั้งเดียว สามารถ save ข้อมูลไว้ก่อนได้ ไฟล์ที่เซฟจะอยู่ในรูปแบบ json เวลาจะกรอกอีกรอบ ก็คลิกไปที่ “นำเข้าข้อมูล”  และเลือกไฟล์ที่เคยเซฟไว้ ข้อมูลก็จะกลับมา
  • “คุณต้องการใช้สิทธิในการเข้าออกและพํานักอย่างเสรีหรือไม่” ข้อนี้เราไม่ได้ตอบอะไร ปล่อยว่างไว้
  • “จุดหมายหลักของการเดินทาง” เราตอบเยอรมันกับสวิส ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ไป
  • "จํานวนครั้งในการเดินทางเข้าที่ต้องการขอ"  ให้ตอบ “เข้าออกหลายครั้ง”
  • “ใบอนุมัติให้เข้าประเทศที่เป็นจุดหมายสุดท้ายของการเดินทาง (ถ้ามี)” ของเรากลับทางสวิสซึ่งอยู่ในเชงเก้งเหมือนกัน ข้อนี้เราปล่อยว่างไว้ ไม่ได้ตอบ 
  • “ประเภทการอ้างอิง” เราเลือก “โรงแรม”  เรากรอกโรงแรมเดียวคือโรงแรมที่แรกที่เข้าพัก และกรอกที่อยู่เป็นภาษาเยอรมัน
2. ข้อกฎหมายที่ต้องทราบในการยื่นวีซ่าตามมาตรา 54 วรรค 2 ข้อ 8 และมาตรา 53 ของเรา print ไป อย่าลืมลงนามให้เรียบร้อย 

3.รูปถ่าย ถ้าถ่ายที่ VFS ราคา 180 บาท ได้ 4 ใบ (ร้านถ่ายรูปหลายที่แพงกว่านี้) ถ้าต้องการถ่ายรูปแล้วเอาไปอัดเอง ให้ถ่ายตามนี้    หรือใช้ app เช่น passport size editor 

4. Passport เล่มจริง เราส่งไปทั้งเล่มปัจจุบัน (เพิ่งทำใหม่) และเล่มเก่าที่มีวีซ่าเชงเก้นด้วย VFS เก็บไปทั้ง 2 เล่ม

5. แพลนการเดินทางเราไม่ได้ละเอียดมาก ให้รู้ว่าวันไหนนอนไหน ทำอะไร เดินทางอย่างไร แต่ไม่ได้แนบตั๋วรถไฟระหว่างเมือง download template ตารางได้ที่นี่ ไฟล์ excel   ไฟล์ word 

6. ใบจองโรงแรม (เป็นภาษาเยอรมันสำหรับ รร ในเยอรมัน หรือภาษาอังกฤษสำหรับประเทศอื่น) เราจองแบบ free cancellation ด้วย ทั้ง booking agoda hotels ไม่มีปัญหาอะไร  แต่ในใบจองต้องระบุชื่อเราด้วย

7. Statement อย่างน้อย 3 เดือนย้อนหลัง เราไปขอที่ธนาคาร ระบุเป็นภาษาอังกฤษ ค่าใช้จ่าย 100 บาท  (ไม่ได้ยื่น bank guarantee)

8. ประกันเดินทาง ใช้ของ MSIG ซื้อรายเที่ยวเฉพาะช่วงที่ไป (ไม่ได้ซื้อรายปี)  print ทุกหน้าที่ประกันส่งมาให้ทาง email 

9. จดหมายแนะนำตัว และโฉนดที่ดินต่างๆ เราไม่ได้ส่งไปค่ะ 


การยื่นเอกสารในวันนัดหมาย
  1. เตรียมเอกสารให้ครบตาม checklist ด้านบน  ถ้าใครฝากยื่นอย่าลืมแนบหนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบและรับมอบอำนาจ ลงนาม สำเนาถูกต้องด้วย
  2. เดินทางไปที่ศูนย์ VFS ชั้น 4 จามจุรีสแควร์  ถ้าใช้ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2 
  3. ต้องไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาที
  4. ไปถึงผ่านเครื่องสแกน ก่อนเข้าไปรับบัตรคิวด้านขวามือ
  5. พอถึงคิวก็ยื่นเอกสาร สแกนนิ้วมือ (ถ้ายังไม่เคยได้วีซ่าเชงเก้น หรือเคยได้เมื่อนานมาแล้ว) ใครฝากยื่นก็ทำเหมือนคนไปยื่นปกติเลย ยกเว้นไม่ต้องสแกนนิ้วมือ เวลานัด 12.40 น. ยื่นเสร็จ 14.30 น. 
  6. ค่าใช้จ่าย วีซ่า 2200 + ค่าธรรมเนียม VFS 550 + ค่า SMS 60  (อันนี้ไม่จ่ายก็ได้) + ค่าส่ง EMS 210 รวม คจช. ทั้งหมด 3,020 บาท จ่ายด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้ 

เรียบร้อยค่ะ ได้วีซ่า multiple มา 2 ปี ✌

วันเดียวเที่ยว Grindelwald (ตุลาคม) EP2/2





📸  25/10/2018

ความเดิมตอนที่แล้ว



พอทานอาหารเสร็จ ตรงสถานี First (สถานีสูงสุด) จะมีกิจกรรมให้เล่น 2 อย่างคือ First Glider กับ First Flyer
ถ้าใครเล่น 2 กิจกรรมนี้ แล้วซื้อเป็น package มา ก็นั่งกระเช้าขึ้นลงได้ไม่จำกัดเที่ยวค่ะ

กิจกรรมแต่ละสถานี


สำหรับคนที่ไม่ได้เล่น flyer หรือ glider ก็นั่งกระเช้าลงไปที่สถานี  Schreckfeld เพื่อเล่น Mountain Cart ได้ค่ะ



---- Mountain Cart ----
เวลาเปิด 25 พ.ค. - 27 ต.ค. 2019
22/06/2019 - 01/09/2019 | 10.00 to 17.45 h
02/09/2019 - 06/10/2019 | 10.00 to 16.45 h
07/10/2019 - 27/10/2019 | 10.00 to 16.30 h
ความสูงขั้นต่ำของผู้เล่น 135 cm


รูปแบบ: รถโกคาร์ท 3 ล้อให้เรานั่ง ไม่มีเครื่องยนต์ แต่มีเบรคเท้าให้หยุดรถ อาศัยแรงโน้มถ่วงไหลลงมาจากบนเขา 

ระดับความอันตราย เด็กๆ เล่นกันสนุกสนาน แต่ก็ถ้าเบรคไม่ทัน แหกโค้ง ก็พุ่งตกเขาได้เลย เพราะทางเป็นหินกรวด ข้างทางเป็นเหว ตอนเราเล่นก็มีคนจีนรถแฉลบลงข้างทางเหมือนกัน โชคดีที่ไม่ได้ลงฝั่งหน้าผา ไม่งั้นคงหนักกว่านี้ เล่นตรงนี้ก็ใช้ความระมัดระวังด้วยนะคะ

หลังจากที่เรานั่งกระเช้าจาก สถานี First มาลง ที่ Schreckfeld จะเจอฐาน Mountain Cart ก่อนอื่นต้องเซ็นเอกสารรับทราบก่อนกรณีเกิดอุบัติเหตุ และค่อยไปเลือกรถและหมวกกันน็อค ลองนั่ง เหยียบเบรค แล้วไหลลงไปเล้ยยยย

กิจกรรมนี้ ออกจากสถานี Schreckfeld ถึงสถานี Bort  



---- Trotti Bike ----

เวลาเปิด 18 เม.ย. – 27 ต.ค. 2019
22/06/2019 – 01/09/2019 | 08.30 to 18.00 h
02/09/2019 – 06/10/2019 | 08.30 to 17.00 h
07/10/2019 – 27/10/2019 | 08.30 to 17.00 h
ความสูงขั้นต่ำของผู้เล่น 125 cm



รูปแบบ: รถจักรยานแบบไม่มีอาน ที่มีที่ปั่น มีแท่นให้ยืน มีเบรค ระยะทางตั้งแต่สถานี Bort ถึง Grindelwald BGF

ระดับความเสี่ยง – มีคนเกิดอุบัติเหตุบ้างประปราย อย่าง pantip กระทู้นี้ โชคดีที่ประกันครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล  http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/09/E12697692/E12697692.html 
ดังนั้น เพื่อความรอบคอบ อาจจะต้องลองเช็คกับประกันเดินทางด้วย ว่ากรณีเล่นกิจกรรมแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะจ่ายให้หรือไม่

อย่างที่บอก เราพกของพะรุงพะรังมาก  เลยให้เพื่อนเล่นแทน เพื่อนบอกมันส์มากกกกกกกกกกกกกกกก วิวสวยมากกกกกกกกกกก  ส่วนเราเรานั่งกระเช้าลงไป ซึ่งถ้าใครไม่ได้เล่น Trotti Bike ลงไป ก็เผื่อเวลาเดินลงไปด้วยค่ะ เพราะมองจากข้างบนยังรู้สึกวิวสวยมากๆ ระยะทางเดินลงเขาจากสถานี Bort จนถึง Firstbahn ประมาณ 4.1 กม. ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า


คนที่ไม่เล่นกิจกรรมก็เดินลงไปได้
วิวระหว่างระหว่างนั่งกระเช้าลงมา

ถึงสถานีล่างสุดแล้วก็ออกมาเดินเล่น

สวยมากมุมนี้
หากมีเวลาเหลือ ใครจะไปเล่น Pfingstegg ก็เดินตามป้ายเหลืองๆไปได้เลยค่ะ










วันเดียวเที่ยว Grindelwald (ตุลาคม) EP1/2


📸  25/10/2018


----------------------
ความเดิมตอนที่แล้ว

----------------------

ข้อมูลทั่วไป
  • เราไปที่นี่เมื่อเดือนตุลาคม 2018 เคยมาครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้วแต่ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ค้าง เป็นทางผ่านไปขึ้นจุงเฟราเฉยๆ  พอมาเจอของจริงสวย ประทับใจมาก จนต้องขอมาค้างซัก 3 คืน  《 รีวิวที่พัก 》ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง วิวสวย กิจกรรมเยอะ ห้ามพลาดจริงๆ
  • สำหรับฤดูร้อน 2019 Grindelwald First เปิดตั้งแต่ 1 เมษายน  - 27 ตุลาคม 2019 กระเช้าเปิด 8-18 น.(ตรวจสอบเวลาอีกครั้ง)
  • รายละเอียดเวลาเปิดปิดราคา ฯลฯ ดูที่ 《 Brochure 》
  • ก่อนออกเดินทาง อย่าลืมเช็คสภาพอากาศ ☀☁☂ ด้วยเพราะถ้าอากาศไม่ดี อาจมีเสียเที่ยว 
  • อุณหภูมิ มีฝนตก หรือมีแดด ดูได้ที่ 《 jungfrau official 》
  • สภาพบนยอดเขามีหิมะ มีดอกไม้ ฯลฯ ดูจาก live cam 《 panocam 》เว็บนี้ advance ตรงที่มีภาพย้อนหลังตั้งแต่ปี 2012 !!!  เดือนไหนวิวเป็นยังไง ดูได้จากที่นี่เลย เริ่ด !




  • ที่นี่กิจกรรมเยอะ และวิวสวยด้วย ควรให้เวลาสำหรับที่นี่ 1 วันเต็มค่ะ จะได้ซึมซับบรรยากาศ 
-----------------------------------------------------

การเดินทาง 
  • จากสถานี grindelwald ไปที่สถานี firstbahn เพื่อซื้อตั๋ว มี 2 วิธี
     ➊ เดิน 750 เมตร 
     ➋ นั่งรถบัสสาย 1, 121,123 (Swiss Pass นั่งฟรี) 
  • เมื่อไปถึง firstbahn ก็ซื้อตั๋วนั่งกระเช้า (gondola) ขาเดียว 15 CHF ไปกลับ 30  CHF (ราคานี้ใช้ swiss pass ลด 50% แล้ว)
Firstbahn ข้างหน้าจะมีป้ายบอกสถานะกระเช้าไหนเปิดปิด

  • เพื่อขึ้นไปบนยอดเขาจากสถานีล่างสุด firstbahn (Grindelwald BGF) ต้องนั่งกระเช้า 3 สถานี ไล่จากล่างขึ้นบน 1) Bort  2) Schreckfeld  3) First  (จริงๆ ซื้อแยกทีละสถานีได้ บางคนก็เลือกที่จะเดินลงเขา)
  • เมื่อขึ้นไปถึงสถานี first แล้ว ไล่จากบนสุดลงมา มีกิจกรรม 6 อย่าง (Swiss Pass ไม่ได้ลด)
รูปที่ 3-4 มาจากเว็บไซต์ official นะคะ

  • ถ้าคิดจะเล่นกิจกรรม ก็เลือกเป็นแพคเกจดีกว่า ต้องซื้อตั้งแต่ข้างล่าง ราคากระเช้าไม่จำกัดจำนวนเที่ยว+กิจกรรม (เลือกเอาจากหัวข้อ ➌-➏)
       - 1 อย่าง 46 CHF*
       - 2 อย่าง 65 CHF*
       - 3 อย่าง 83 CHF*
       - 4 อย่าง 99 CHF*
         
           * ราคาผู้ใหญ่ใช้ swiss pass ลดแล้ว




แผนผังสถานีและกิจกรรมดูในรูปง่ายดีค่ะ

Source: https://www.bort.swiss/en/nature-adventure/adventure/


ซ้ายคือตั๋วขึ้นลงกระเช้าไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และเลือกเล่นกิจกรรม 2 อย่าง จาก 4 อย่างที่เราบอกไว้ตอนแรก เวลาใช้ต้องสแกน barcode ที่เครื่อง ห้ามหายเด็ดขาดเลยใบนี้

-----------------------------------------------------



--- Bachalpsee --- 

ฤดูร้อนปีนี้ เปิดถึง 27 ต.ค. 2019 (ขึ้นอยู่กับหิมะด้วย)


จากสถานี Grindelwald BGF  (Firstbahn) นั่งกระเช้ารวดเดียวถึงสถานี firstระหว่างทางก็ดูวิวไปเพลินๆ

ถึงแล้ว สถานี First 
เดินตามป้าย "To the Lake" ไป ป้ายบอกว่าเดิน 50 นาที
"std" บนป้าย
มาจาก "stunden" เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า "ชั่วโมง"
  • อย่าลืม ดูเวลาเปิดปิดกระเช้าด้วย ถ้าไปบ่ายควรเผื่อเวลาให้ทันลงเขา ก่อนกระเช้ารอบสุดท้าย 18.00《 ดูได้ที่ jungfrau.ch 》
  • อ่านรีวิวมาบอกว่าระยะ 3 กม. เดินแบบชิลๆ อีซี่ๆ แต่จริงๆ ถ้าไม่ใช่สายฟิตแอนด์เฟิร์ม อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้น เดินกันไปก็ถามกันตลอดทาง "ใกล้ถึงยัง (วะ)"  "ณเดชน์ญาญ่าก็ต้องเดินเส้นทางนี้ใช่มั้ยนะ" (จากเรื่องลิขิตรัก) "3 กิโลแน่ใช่มั้ย"   5555 
  • เอาแว่นกันแดดไปด้วย ทาครีมกันแดดหนาๆ เพราะแดดจะแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้หน้าไหม้ได้ 
  • รองเท้าใส่แบบสบายๆ เพราะทางเดินเป็นหินกรวด มีทางชันบ้างพอประมาณ เรา 3 คนใส่ Skechers 
  • กินข้าวให้อิ่ม อย่าลืมพกน้ำไปด้วยนะ เพราะระหว่างทางและตรงทะเลสาบไม่มีร้านขายของอะไรเลย ดีที่เราพกน้ำขวดเล็กไปพอดี ไม่งั้นไม่ไหวแน่ๆ อากาศก็แห้ง คอก็แห้ง หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ  แถวนั้นมีธารน้ำเล็กๆ เห็นคนเอาขวดน้ำมารองดื่มได้  
  • เข้าห้องน้ำตรงสถานี First ก่อนออกเดินทาง ระหว่างทางไม่มีห้องน้ำ 
  • เมื่อเริ่มเดินจะเห็น First Cliff Walk อยู่ด้านซ้าย แต่เราเก็บไว้เล่นขากลับ
    แต่ถ้าใครจะไม่กลับทางเดิม (บางคนเดินลงเขาไปถึงหมู่บ้านตรงมุมล่างขวา) ก็ควรเล่นให้จบเลย
    ทางเข้า Cliff Walk อยู่ที่จุดชมวิวตรงร้านอาหาร (ที่สถานี First)
ถึงแล้วจ้า Bachalpsee สวยงามตามท้องเรื่อง
เราออกเดินทาง 10.30 น. เดินไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย ถึงทะเลสาบ 11.55 น.  
ถ่ายรูปกันพอประมาณก็เดินทางกลับ
ขากลับ เดินตั้งแต่ 12.30  -13.00 น. ใช้เวลา 1 ชม. ครึ่ง
แวะถ่ายรูปบ้างแต่น้อยกว่าขามา


คนตัวเล็กจ้อยร่อย เทียบกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
ม้านั่งมหัศจรรย์ ถ้านั่งคนเดียว จะให้ความรู้สึกเหงาๆ  ถ้านั่งเป็นคู่ จะดูโรแมนติก

จากแถวนี้ มองไปเห็นหมู่บ้านข้างล่างสำหรับเล่น Trotti Bike เราว่าหมู่บ้านนี้สวยมากกก  น่าจะไปเดินเล่น
เดินไปคอแห้งไป เห็น Cliff Walk ลิบๆ ใกล้ได้กินน้ำแล้วจ้า เย่ๆ


--- First Cliff Walk----

  • พอเดินกลับจนใกล้ถึงสถานี first แล้ว เราเล่น First Cliff Walk ต่อ  มันคือทางเดินตะแกรงเหล็กโปร่งๆอ้อมรอบหน้าผา แต่ไม่ค่อยน่ากลัว เดินได้เรื่อยๆค่ะ
คลิปตอนเดินค่ะ สบายๆ



  • ฐานนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที จนสุดทางจะเจอจุดชมวิวยื่นออกไป มองเห็นยอด wetterhorn schreckhorm และ Eiger คนรอต่อคิวถ่ายรูปพอสมควร รีบโพสท่า รีบออก
  • พอเราก็ถ่ายแป๊บเดียวก็พอแล้ว หิวมากก


--- Berggasthaus First ---




  • First cliff walk มีทางเชื่อมกับร้านอาหาร Berggasthaus First ซึ่งที่นี่มีบริการห้องพักด้วย เป็น hostel (จองได้ที่นี่ ) วิวสวยอลังการสุดๆ เห็นรูปใน booking นี่มือสั่นอยากกดจองมาก แต่พอมาดูแล้ว เวลาเข้าที่พักแต่ละทีต้องขึ้นกระเช้าเท่านั้นอะ ซึ่งถึงมี swisspass ก็ไม่ได้นั่งฟรี เราจ่ายไม่ไหว เดินขึ้นลงก็ไม่ไหว เลยต้องขอบอกผ่าน
  • ร้านอาหารที่นี่เป็นแบบ self service เดินเข้าไป หาที่นั่ง แล้วไปสั่งอาหาร รอรับอาหาร แล้วถือถาดมาที่โต๊ะเองได้เลย


ข้างในร้านบรรยากาศสบายๆ สไตล์สวิสชาเลต์ สีอ่อนๆของไม้ทำให้รู้สึกอบอุ่น


อาหารที่สั่งมา 4 อย่าง รสชาติโอเคค่ะ โดยเฉพาะมาม่าเกาหลี แต่ไส้กรอกเค็มไปนิดนึง ซึ่งเป็นธรรมดาของอาหารแถวนี้ ส่วนเครปผลไม้ไม่ต้องพูดถึงดีต่อใจ

  • กินเสร็จ พักขาเล็กน้อย เข้าห้องน้ำให้เสร็จสรรพ ออกเดินทางต่อ
-------------------------------------
ขอจบ EP 1 ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อ EP 2 Mountain Cart กับ Trotti Bike