รีวิวการเช่ารถในเยอรมัน แบบละเอียด : autoeurope/hertz






ก่อนการเดินทาง
·     ค้นหารถเช่าราคาถูก เราเลือกค้นหารถผ่าน autoeurope ได้รถ Ford Focus ของ Hertz ราคา 36 Euro ต่อวัน ราคานี้รวมประกันรวมประกันแบบ Super cover ประกันรถหาย-ยาง-ล้อ ฯลฯ No-Deduct/ 0 Excess ตัดเงินผ่านบัตรเต็มจำนวน รับรถที่สถานีรถไฟ Munich คืนที่  Freiburg มีค่า one-way fee 26.05 ยูโร จ่ายตอนรับรถที่มิวนิค จองรถได้ที่นี่ 👉  http://bit.ly/2UxwjKz 



รายละเอียดการเช่ารถ อ่านให้ดีนะคะ ข้อควรรู้ ข้อห้ามต่างๆ ราคา เงื่อนไข อยู่ในเอกสารนี้แล้ว 



·     ใบขับขี่สากล ถึงไม่มีรายชื่อประเทศเยอรมันในสนธิสัญญาอนุญาตให้ขับขี่ในใบขับขี่สากล แต่ตอนรับรถต้องใช้ประกอบกับใบขับขี่ไทยค่ะ ค่าทำ 505 บาท มีอายุ 1 ปี รายละเอียดดูได้ 👉ที่นี่
·     ศึกษาป้ายจราจรและการจ่ายค่าจอดรถ  เพราะสำคัญมาก บางทีไป search หาวิธีหน้างานหาไม่เจอค่ะ การจอดรถข้างทางก็งงๆ ไม่ได้ศึกษาก่อน ไม่มีใครให้ถามด้วย สุดท้ายเลยหาที่จอดแบบ garage ซึ่งแพงกว่า ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลไปก่อนค่ะ ดูได้จาก กระทู้ pantip1  กระทู้ pantip 2 youtube1 youtube2 youtube3
·     ปักหมุดที่จอดรถ/ที่เที่ยว ดูใน google map แล้วปักหมุดที่จอดรถไว้เลยค่ะ ทั้งที่พัก ที่เที่ยว
·     Sim ต่างประเทศ แนะนำให้ซื้อซิมที่สามารถโทรออกและรับสายได้ เพราะเวลาเกิดเหตุอะไรจะได้สามารถโทรสอบถาม/ขอความช่วยเหลือ/ติดต่อบริษัทรถเช่า/ประกัน ได้ ของเราซื้อไป 2 แบบ
o  Sim2fly  899 บาท โทรออกได้ (ค่าโทรสูงสุดนาทีละ 35 บาท) รับสายได้ (เยอรมัน 15 บาท) แต่ต้องเติมเงิน ซึ่งจะวุ่นวายมากเวลาฉุกเฉินแต่เงินในซิมไม่มี ต้องเติมเงินก่อนรับสาย/โทรออก ข้อดีคือเน็ตเร็ว
🔼 อย่าลืมลงทะเบียนก่อนใช้งาน
o  Wise Sim 599 โทรออกฟรีภายในยุโรป รับสายฟรี ไม่ต้องเติมเงินเพิ่มแล้ว แต่ข้อเสียคือเน็ตช้ากว่า Sim2fly บางทีหมุนติ้วๆๆ
🔼 ศึกษาวิธีลงทะเบียนก่อนใช้งาน
ใส่ซิมแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งซองใส่ซิม ให้ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน เผื่อต้องใช้เบอร์โทร สำหรับการโทรเข้า

·     ประกันเดินทาง ถึงแม้ประกันรถเช่าจะ No Deduct แต่เราก็เลือกที่มีประกันเดินทางที่คุ้มครองความเสียหายส่วนแรกสำหรับรถเช่าด้วยเผื่อๆไว้ สำหรับคนขับรถด้วย ประกันเดินทางที่คุ้มครองรถเช่าเท่าที่หาข้อมูลมามี
o  MSIG แผน Easy 1   จ่ายตามจริงไม่เกิน 25,000 บาท (ต้องเป็นรถเช่าที่มีประกันและบริษัทรถเช่ามีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เคลมได้เฉพาะค่าความเสียหายส่วนแรก ไม่รวมค่าดำเนินการ (ค่าแอดมิน)) 👉 รีวิวการเคลมประกัน   ซื้อประกัน MSIG ได้ที่ 👉 http://bit.ly/2Hdfsp6
o  ไทยวิวัฒน์ แผน PLATINUM   จ่ายตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท (รถเช่าต้องเป็นประกันชั้นหนึ่ง ต้องมีใบอนุญาตเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดที่นั่งรวมทั้งคนขับและมีน้ำหนัก ได้รับอนุญาตสูงสุดสามตัน ไม่คุ้มครอง มอเตอร์ไซค์ รถบ้าน รถบ้านพ่วง รถยี่ห้อ Ferrari, Bentley, Maybach, Rolls Royce, Aston Martin, Porsche, Lamborghini, Jensen, Lotus, McLaren, Maserati, Jaguar, Buggatti, pyker และ Corvette ซื้อประกัน TVI ได้ที่  👉 http://bit.ly/2PE1Fwk
o  AIG Plan A  จ่ายตามจริงไม่เกิน 25,000 บาท (ให้ความคุ้มครองความรับผิดชอบส่วนแรกใดๆ ที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์รถเช่าที่ผู้เอาประกันภัยซื้อเพื่อคุ้มครองรถเช่า สัญญาเช่ารถต้องกำหนดให้ผู้เอาประกันภัยซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง ในกรณีนี้ต้องเช่ารถจากบริษัทที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย)   ซื้อประกัน AIG ได้ที่ 👉 http://bit.ly/38Z9SCG


การรับรถ Pick-up

·     จุดรับรถที่สถานีรถไฟ Munich จะอยู่ตรง DB Lounge 👉แผนที่ เราเข้าตรงชานชาลา และเงยหน้าขึ้นไปจะมีชั้นลอย เป็น counter ของบริษัทเช่ารถเกือบทุกเจ้าเลยค่ะ
ชานชาลาในสถานี Munich

·     วันรับรถใช้ Passport + บัตรเครดิต (ต้องเป็นชื่อคนขับรถและวงเงินต้องเหลือ 200 ยูโร) +ใบขับขี่ตัวจริง + ใบขับขี่สากล (เจ้าหน้าที่ hertz บอกว่าต้องใช้ทั้ง 2 ใบ – ตอนแรกอ่านมาบอกว่าใช้ใบขับขี่ไทยใบเดียวพอ เกือบไม่ทำใบขับขี่สากลไปด้วย โชคดีทำไปเผื่อ กันเหนียวไว้ก่อน)
·     การเช่าผ่าน autoeurope + Hertz สบายใจมาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าประกันเราเป็นแบบ Super cover แล้ว ไม่ต้องกังวล  และไม่เซ้าซี้ให้ซื้อประกันเพิ่มใดๆ เลย  
·     ถ้าออกนอกเยอรมันไปประเทศอื่นต้องจ่ายค่า Cross Border เป็นเงิน 29.75 ยูโร  (เราขับแค่ในเยอรมันเลยไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าออกเดินทางไปแล้วเปลี่ยนใจ จะขับข้ามประเทศ ให้โทรแจ้ง call center ของ Hertz ก่อน)
·     รถ Mercedes BMW SUV ห้ามขับไป Italy
·     ถ้าขับเข้า Austria, Switzerland ต้องซื้อสติ๊กเกอร์ติดเพิ่ม เรียกว่า Vignette สำหรับใช้ Highway ถ้าไม่ซื้อ จะโดนปรับ

Counter Hertz คนไม่เยอะมาก ขวามือคือรายละเอียดการเช่ารถของเราที่ Counter print ให้

·     พอจัดการเรื่องเอกสารเช่ารถเสร็จ ต้องไปรับรถที่ Garage ห่างจาก DB Lounge ประมาณ 200 เมตร 👉ดูแผนที่
·     เราจองรถ Ford Focus or similar Compact 4 Door Car Automatic With A/C ตอนรับรถจริงได้ upgrade เป็น SUV Mitsubishi Outlander 2.4 มี Sunroof 
สีแดงเด่นมากจ้า


·     รถที่ได้มี GPS ในตัว ซึ่งดีมากกกกกกกก เนื่องจาก GPS นี้จะบอกลิมิตความเร็วของเส้นทางที่เราไปด้วย ช่วยให้เราไม่โดนปรับขับรถเร็วเกิน
กล้องช่วยจอด มองเห็นจากมุมบน ทำให้ช่วยจอดในที่แคบๆ ได้ดีกว่าเดิม 


หน้าจอ Navi 
·     การใช้ GPS ในรถ เราสามารถกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้ตั้งเป็นปลายทางได้เลย ไม่ต้องกดอะไรให้วุ่นวาย  ถามว่า google map เพียงพอมั้ย ก็ใช้ได้นะคะ คุ้นเคย แต่ต้องคอยดูป้ายบอกทางว่าจำกัดความเร็วที่เท่าไหร่ ถ้าขับเกิน speed limit ค่าปรับเริ่มต้นที่ 10 ยูโร สูงสุด 600 ยูโร ซึ่งค่าปรับเป็นอัตราก้าวหน้า ดูค่าปรับจราจรแบบละเอียดได้ 👉ที่นี่
·     ถ้าโดนปรับ นอกจากค่าปรับที่เราต้องจ่ายให้รัฐแล้ว บริษัทเช่ารถจะคิดค่าธรรมเนียมดำเนินการด้วย ราคา 35.40 ยูโรต่อการปรับ 1 ครั้ง ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถไปเคลมประกันเดินทางได้นะ

บรรยากาศข้างทางสวยงามมาก เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี

การคืนรถ Drop-off
·     จุดคืนรถอยู่ที่ FREIBURG SOUTH CITY OFFICE ห่างจากสถานีรถไฟ Freiburg ประมาณ 3 กม. 👉ดูแผนที่ ดังนั้นของเราต้องแวะไปที่โรงแรมก่อนเพื่อฝากกระเป๋า และรับตั๋วรถขนส่งสาธารณะฟรี (free city ticket) ที่โรงแรม เพื่อใช้นั่งรถบัสกลับที่พัก (เราพักที่ InterCity Freiburg มี  free city ticket แจกให้สำหรับเดินทางในตัวเมืองฟรี ทั้งรถบัส รถราง จุดจอดรถตรง Garage ใต้ดินหน้าโรงแรมได้ 20 นาที ริมถนนจอดไม่ได้นะ โดนปรับ ดังนั้นเรามีเวลาน้อยมากในการฝากกระเป๋าและรับตั๋ว ดังนั้นรีบขอ city ticket ก่อนเลย อย่างอื่นไว้มาคุยทีหลัง 5555)

·     ก่อนคืนรถก็เติมน้ำมันให้เต็มถังก่อน ค่าน้ำมัน  1.389 ยูโร ต่อ 1 ลิตร ที่ปั๊ม Union-Tankhof e.K. 👉แผนที่ อยู่ระหว่างทางจากโรงแรมตรงสถานี Freiburg กับจุดคืนรถ
ต้องเติมน้ำมันเอง ไม่มีเด็กปั๊มนะ

ราคาน้ำมัน  ณ วันนั้น


·     ราคาน้ำมันทุกชนิดในเยอรมัน คลิกเข้าไปจะมีราคาหน้าปั๊มแต่ละที่  👉 https://de.fuelo.net/prices/date/2020-02-24?lang=en 




·     ตอนคืนรถไม่วุ่นวาย เจ้าหน้าที่เห็น Super Cover ก็แทบไม่เช็คอะไรมากค่ะ เพราะประกัน cover หมดแล้ว
·     คืนรถเสร็จ เดินออกมาป้ายรถเมล์ นั่งรถเมล์สาย 11 กลับที่พักที่สถานีรถไฟ Freiburg (Freiburg, Hauptbahnhof) นั่งไป 7 ป้าย ใช้เวลา 12 นาที บนรถมีป้ายบอกทางตลอด ไม่หลงแน่นอน

  
Klook.com



เช่ารถ sixt เยอรมัน pantip ,เช่ารถ hertz เยอรมัน,เช่ารถยุโรป,เช่ารถ ยุโรป sixt pantip, ขับรถในเยอรมัน ใบขับขี่,เช่ารถ sixt เยอรมัน pantip,เช่ารถ เยอรมัน pantip,เช่ารถ ยุโรป,เช่า รถ ยุโรป sixt pantip,การ จอด รถ ที่ เยอรมัน,เช่า รถ hertz ยุโรป,เช่า รถ rentalcars pantip,การเช่ารถในยุโรป,เช่ารถ อิตาลี pantip,เช่ารถ ยุโรป sixt pantip,เช่า gps ไป ยุโรป,เช่า รถขับเองยุโรป,รีวิว ขับ รถ ใน ยุโรป,เช่า รถ hertz ยุโรป,


รีวิวเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน --- มีเวลาน้อยนิด ก็ไปชิคกันได้ ---


  รีวิวเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน
--- มีเวลาน้อยนิด ก็ไปชิคกันได้ ---
วันเดินทาง มกราคม 2563
รูปทั้งหมดถ่ายโดยมือถือ Samsung Note 9



o   แอปดี ใช้งานง่าย
o   กรอกชื่อนามสกุลไว้ล่วงหน้าได้ถึง 20 คน (กรอกไว้ล่วงหน้า ตรวจทานตัวสะกดรอบเดียว  ลดการพิมพ์ชื่อในตั๋วผิด เพราะคนที่จองตั๋วบ่อยๆ และต้องจองตั๋วให้คนอื่นแบบเราเนี่ย กลัวที่สุดคือสะกดชื่อนามสกุลผิด เพราะจะทำให้ชีวิตวุ่นวายมาก 55555)
o   มีส่วนลดบ่อยๆ ทำให้ถูกกว่าเจ้าอื่น และบางทีถูกกว่าซื้อตรงกับสายการบินอีกด้วย
o   ที่สำคัญ จองผ่าน Traveloka เรามั่นใจ ได้ตั๋วแน่นอน จ่ายเงินปุ๊บ e-ticket ไหลเข้าเมลรัวๆ ไม่ต้องรอนานให้กังวลใจ
o   Call Center ดี เวลามีปัญหาคุยเป็นภาษาไทยได้ ส่วนตัวเราชอบติดต่อผ่าน Chat เพราะสะดวก คุยเสร็จพิมพ์ข้อความที่คุยไว้อ่านซ้ำได้ ไม่ต้องจด


ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็จองผ่าน Traveloka ตลอด และไม่เคยเจอปัญหาในการใช้งาน


  • ตอนนี้ยิ่งสะดวก เพราะมีบริการ Online Check-in กับเว็บหรือแอป Traveloka โดยตรงได้เลย ช่วยประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องเข้าไปเช็คอินกับเว็บของสายการบินของการบินแล้ว สะดวกมากๆ ไม่ต้องคอยเปิดหลายเว็บ สลับไปสลับมา ไม่ต้องคอยพิมพ์นามสกุลและ PNR ของสายการบินเพื่อเช็คอิน ตอนนี้สบายเข้า Traveloka ที่เดียว จบ  ใครไม่โหลดกระเป๋า ก็เดินตัวปลิวเตรียม boarding ได้เลยจ้า
  •   วิธีการเช็คอินออนไลน์ง่ายๆ 5 นาที 5 steps 
check in online ผ่าน Traveloka


  • ตอนนี้สายการบินที่เปิดให้ check in online ผ่าน Traveloka ได้ก็มีการบินไทย/ไทยสมายล์/ไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินของอินโดนีเซีย
  • ดูรายละเอียดได้ที่ →https://www.traveloka.com/th-th/checkin




รถเช่า Hertz 


  • เราเช่ารถจาก Hertz ได้รถ Vios ใหม่มาก วิ่งแค่ 6000 กว่ากิโลเท่านั้น สะอาดเอี่ยม รถมีกล้องหลัง ต่อ Bluetooth ฟังเพลงได้สบาย รับง่ายคืนง่ายที่สนามบินเชียงใหม่
  • เช่าโดยใช้คูปอง ซื้อจาก  vouchercarrental วันละ 740 Hertz 1.5 no deduct รวมประกันเฉี่ยวชน+รถหาย + ยาง ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จ่ายเพิ่มจาก Voucher 250 บาทต่อวัน แต่ต้องโทรจองรถล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน วันไปรับรถต้องเอาคูปองตัวจริงไปด้วย *** คนขับต้องมีบัตรเครดิต เพื่อใช้กันวงเงินตอนรับรถด้วยนะ (10,000 บาท)


เทียบกับราคาหน้า Counter แล้ว ไม่ว่าจะซื้อ Voucher หรือจองผ่าน drivehub ก็ถูกกว่าแน่นอน






ที่พัก K Maison Lanna Boutique Hotel 

  •   ห้อง Superior/ Classic Corner คืนละ 2500 บาท รวมอาหารเช้า จองผ่าน Traveloka/Agoda/booking 
  • โรงแรมตั้งอยู่แถววัดเกตุ สไตล์ minimal เรียบหรู ถ่ายลง IG สวยงามตามแบบ hipster แน่นอน
  •   ที่จอดรถอยู่ซอยด้านข้างโรงแรม  เป็นที่จอดรถกลางแจ้งของหอพัก ที่ทางโรงแรมดีลไว้ ตอนเข้าไปก็จะงงๆนิดหน่อยว่าจอดได้ใช่มั้ย
  •   บริเวณโรงแรมมีตัวโรงแรมเล็กๆ ห้องพัก 19 ห้อง ล็อบบี้มีโต๊ะ 1 ตัวและ notebook ของพนักงาน เรียบง่ายสุดๆ
  •    ห้องอาหารเช้าคือจุดเดียวกับสระน้ำ อาหารเช้าเสิร์ฟมาในปิ่นโตไม้เก๋ๆ ภาชนะเป็นขวดโหล มีให้เลือก 3 แบบ เราเลือกแบบล้านนา หลักๆ เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง (เนื้อหมูล้วนแบบสมัยก่อน ไม่ใช่แบบหมูปิ้งนมสดหวานๆ)  น้ำพริกอ่อง (ไม่หวาน) ไข่ต้มผักต้ม ไส้อั่ว (เผ็ดนิดๆ) เราว่าอาหารเช้ารสชาติดี จนไม่ต้องไปกินเมนูนี้ตามร้านอาหารเหนือแล้ว ถ้าไม่อิ่มขอเพิ่มได้ กาแฟหรือโกโก้ก็อร่อย อิ่มตั้งแต่เช้าเลย
  •    ห้องพักมีอุปกรณ์ครบครัน สิ่งที่ชอบมากกกกกกกกกกก คือแชมพูสระผม ครีมนวด และครีมอาบน้ำ หอมมาก และใช้แล้วผิวนุ่มลื่นสุดๆ ดีงามจนอยากซื้อไปใช้ที่บ้าน
  •     ข้อสังเกต หากใครคาดหวังโรงแรมที่มีบริเวณกว้างขวาง มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นเยอะ หรือมีสระน้ำขนาดใหญ่ โดดเล่นน้ำได้ตูมๆ /line buffet อาหารเช้าแน่นๆ มีตัวเลือกอาหารเยอะๆ ที่พักแห่งนี้อาจไม่ตรงความต้องการนะคะ 
บริเวณด้านหน้าโรงแรม ไม่ใหญ่ แต่ลงตัว และ reception counter ที่แสนจะเรียบง่าย

บริเวณสระว่ายน้ำและ lobby

Lobby ยามค่ำคืนและห้องนอน


อาหารเช้าแบบอาหารเหนือและแบบ ABF มาในปิ่นโตไม้



ที่กิน/ที่เที่ยว 


– อาหารเหนือ original ปูอ่องคือเป้าหมาย ร้านนี้ติด Michelin BIB Gourmand 2020 ด้วยนะ ไม่ทำดา
เราสั่งอาหาร 4 อย่างตามรูป มีปูอ่อง เชียงดาผัดไข่ (ผักเชียงดาเป็นผักพื้นเมือง มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดได้ดี) ตำขนุน สามชั้นทอด รสชาติสไตล์เมืองๆ  ราคาไม่แพง
ส่วนน้ำพริกอ่อง เราไม่ได้สั่งแล้ว เพราะเต็มอิ่มไปแล้วที่อาหารเช้าโรงแรม


- กินผักเพราะรักแม่ ร้านต้นตำรับ แต่รสชาติก็เหมือนใน กทม เลย ร้านกว้างใหญ่ไพศาล แต่ที่นี่มีสวนผักให้ชมด้วย  คนก็แน่นเหมือนทุกๆ ที่ แนะนำให้โทรจองก่อน จะได้ไม่ต้องรอคิวนานค่ะ
บริเวณร้านจัดไฟสวยงาม

ผักสดให้มาอลังการเหมือนเดิม จานค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ทานกันหมดนะคะ 555


เสิร์ฟสวย ขนม+กาแฟ อร่อย บรรยากาศร้านสบายๆ ใครที่เป็นสายดอกไม้ห้ามพลาดค่ะ  ที่นี่มีที่พักด้วย เช็คราคากัน ผ่าน Traveloka/Agoda ได้เลย 

บรรยากาศร้านอบอุ่น มองเห็นสวนลุงลพอยู่ข้างหลัง

ขนมตกแต่งจานได้สวยงาม รสชาติดี 
ชอบตรงซอสสตอร์เบอร์รี่ไม่หวานเกินไป
ลาเต้เย็นอร่อยมาตรฐาน


– ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้ชิคๆ เอาไว้อัพรูป profile ใหม่ ค่าเข้า 50 บาท สวนอยู่หลังร้านกาแฟ Chic39 จากที่คุยกับลุงลพมา ลุงบอกว่าใช้เวลาปลูกถึง 4 เดือนกว่าจะออกดอกสะพรั่งขนาดนี้ ดอกสีม่วงคือ ดอกมากาเร็ต ดอกสีขาวคือคัตเตอร์หรือพีคอก






ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่   ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกันว่าหากมาสักการะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านอุปสรรคนานาไปได้ ในการสักการะพระธาตุนั้น ควรเตรียมข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียนแล้วเดินเวียนขวา 3 รอบ พร้อมกล่าวคำนมัสการพระธาตุ โดยตั้งจิตอธิษฐานขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และควรไหว้พระธาตุให้ครบทั้ง 4 ทิศ ซึ่งให้อานิสงส์ที่ต่างกัน คือ ทิศเหนือขอให้มีปัญญาดุจพระจัทร์เพ็ญ ทิศใต้ ขอให้ได้เป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชในบวรพุทธศาสนา ทิศตะวันออกขอให้ได้ขึ้นสวรรค์ ทิศตะวันตกเป็นการเคารพบูชาสูงสุดต่อพระธาตุ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มานมัสการพระธาตุดอยสุเทพแล้ว ควรมากราบอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่ประดิษฐานอยู่ตรงเชิงดอยสุเทพเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย (ที่มาข้อมูล)

ทางขึ้นวัด เราเลือกเดินขึ้นบันได 306 ขั้นค่ะ หรือถ้าหากใครมีปัญหาด้านการเดิน ก็มีรถรางไว้บริการ ในราคา 20 บาท

ตั้งอยู่บนยอดเขาเดียวกันกับพระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นที่ประทับสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการเสด็จแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานในพื้นที่ภาคเหนือ เอกลักษณ์ของพระราชนิเวศน์แห่งนี้ ก็คือ กุหลาบหลากหลายพันธุ์ส่งกลิ่นหอมไปทั่วเลยค่ะ และดอกใหญ่มาก เท่าหน้าคนเลย


ค่าเข้าเพียง 20 บาทเท่านั้น แต่ต้องแต่งชุดสุภาพเรียบร้อยนะคะ
ดอกกุหลาบเทียบกับหน้า 



ไฮไลท์คือ Canopy walkway เป็น เส้นทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ ระยะทาง 500 เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร และเรือนกระจกพืชทนแล้ง มีกระบองเพชรพันธุ์ต่างๆ สวยงามมาก ใครชอบถ่ายรูปแนวฮิปเตอร์ต้องไม่พลาดจุดนี้

ค่าเข้าผู้ใหญ่ 40 รถยนต์ 100 บาท



Canopy walkway ร่มรื่นมาก

 ใบเสร็จที่จ่ายตรงทางเข้าเก็บไว้ให้ดีนะคะ เพราะต้องนำมาโชว์ตอนจะเข้า canopy

มีผลิตภัณฑ์ขายด้วยค่ะ หอมมากๆ จะซื้อใช้เองหรือเป็นของฝากก็ดีงามค่ะ จัดไป



อาคารเรือนกระจกต่างๆ 



กุหลาบอังกฤษ หอมมากกกกกกกกกกกกก



ปิดท้ายทริปด้วยของฝากจากโครงการหลวงที่สนามบินเชียงใหม่ สดใหม่ ราคาไม่แพงค่ะ