เราไปอิตาลีมา 2 รอบ แต่เที่ยวแต่แถวช่วงอิตาลีเหนือ แค่ส่วนบนของรองเท้าบู้ท จนไปถึงเกือบกลางๆ ยังไม่ได้ลงถึงโรมและทางใต้ กับทัสคานีเลยค่ะ เอาไว้ครั้งต่อๆ ไป ค่อยไปเก็บเพิ่มเนอะ เพราะเป็นประเทศที่ไปแล้วไม่เบื่อเลย
ส่วนตัวเราว่าอิตาลีเป็นประเทศที่สวยครบเครื่องประเทศหนึ่ง เพราะมีทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติยิ่งใหญ่สวยงาม อาหารก็อร่อย มีเอกลักษณ์ ใครไปต้องติดใจค่ะ
5 ที่ ที่เราประทับใจและขอแนะนำ เผื่อเป็นแนวทางของคนที่หาที่เที่ยวอยู่นะคะ
ส่วนที่พัก หรือรายละเอียดที่เที่ยวแต่ละที่จะค่อย ๆ ทยอยรีวิวค่ะ

2. Florence/Chianti
3. La Spezia: Cinque Terre
4. Venice
5. Siena
1. Dolomiti : Alleghe, Colle Santa Lucia, Giau Pass, Cortina d'Ampezzo
Dolomiti หรือ Dolomite ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของอิตาลี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์
เป็นแหล่งเล่นสกีของชาวยุโรปค่ะ แต่เราไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคม (หยุดวันแรงงาน) ซึ่งเป็น shoulder season คือเป็นช่วงกลางระหว่างฤดูเล่นสกี และระหว่างฤดูร้อนที่คนเริ่มเดินป่า
และที่สำคัญเป็นช่วงที่ทุกสิ่งที่อย่าง .... ปิด !!!! โดยเฉพาะกระเช้าขึ้นยอดเขา ใครจะไปเที่ยวที่นี่ เช็คเวลาเปิดปิดกระเช้าให้ดีนะคะ
เราไปรอบนี้ ไปแค่เสี้ยวหนึ่งของ Dolomiti เท่านั้นค่ะ เพราะมีเวลาจำกัดมาก ค้างแค่คืนเดียว
คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะไปเส้นทางนี้คือ ควรเผื่อเวลามากกว่า 3 วัน เพราะสวยมาก ไปแล้วอยากอยู่ต่อนานๆ
เอาเป็นว่าคืนเดียวไม่พอ น้อยเกินไปค่ะ
การเดินทาง
เราเช่ารถจาก Venice แล้วขับขึ้นไปนะคะ
เพราะรถสาธารณะค่อนข้างน้อย ถ้าขับรถไปเองจะสะดวกกว่ามากค่ะ
1.1 Alleghe
เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ เงียบมากกกกก ล้อมรอบด้วยภูเขา มีทะเลสาบและกระเช้าขึ้นไปเล่นสกีค่ะ แทบไม่เห็นคนเอเชียเลย
ช่วงหน้าสกีคนน่าจะเยอะ แต่พอเราไปช่วง shoulder season แบบนี้ เลยเงียบสงบสุดๆ ไปเลย
Highlight ของเมืองนี้อยู่ที่ที่พักเลยค่ะ นั่นคืออออ Appartamenti Chalet al Lago เราเจอที่นี่โดยบังเอิญตอนหาเส้นทางไป Cortina d'Ampezzo เห็นแว๊บๆ ใน google map ว่ามีทะเลสาบ และมีที่พักติดทะเลสาบราคาก็ไม่แพง 116.10 ยูโร สำหรับ 4 คน (ถ้า 2 คนก็ราคาถูกกว่านี้)
พอไปเห็นที่พักจริงๆ ถือว่าคิดถูกมากๆ ที่จองที่นี่ วิวสวยมาก อยู่ติดทะเลสาบ เห็นวิวโบสถ์และภูเขาหิมะตรงหน้า กลางคืนมีไฟจากในเมือง ตอนเช้ามีหมอกระเรี่ย เป็นที่พักที่ชอบที่สุดในทริป ไว้เดี๋ยวจะรีวิวที่พักที่นี่เต็มๆ นะคะ
ที่นี่เป็นอะไรที่คนไทยยังไม่ค่อยไปค้างคืนกันค่ะ หารีวิวแทบไม่มี เราว่าก็แอบคล้ายๆ Hallstatt ยอดฮิต แต่ราคาถูกกว่าและเดินทางยากกว่า 5555
![]() |
วิวจากทีพ่ัก อยากนั่งมองทั้งคืน |
![]() |
โบสถ์ |
![]() |
บ้านพัก Appartamenti Chalet al Lago |
![]() |
วิวมองจากห้องรับแขก อยากนั่งมองวิวแบบนี้ทุกวัน |
1.2 Colle Santa Lucia
เมืองนี้เป็นทางผ่าน แต่สวยมากกกกกกกกกกก นึกเสียดายมากๆ เลยค่ะที่ไม่ได้แวะเที่ยว หรือค้างที่นี่ซักคืน
เช่นเดียวกับเมือง Alleghe เป็นเมืองเล็กๆ สงบ มีโบสถ์เป็นศูนย์กลางของเมือง
โดยเฉพาะวิวฉากหลังเป็นภูเขาหิมะนี่ยังกับเทพนิยายเลยค่ะ และดูจาก landscape แล้ว ที่นี่สวยทุกฤดู สวยทุกมุม ตากล้องต้องมาค้างซักคืน
1.3 Giau Pass

landmark คือเทือกเขาที่อยู่ด้านหลังกับร้านอาหารนี้ค่ะ
ใครมาถึงจุดนี้ต้องจอดรถ ได้โกโก้อุ่นๆ ซักแก้วทำให้ดีขึ้นมาก เพราะอากาศเย็น
ห้องน้ำสะอาดดีด้วย
ถ้าฤดูหิมะ ยอดเขาจะขาวโพลนไปหมด เราไปช่วง พค ยังมีหิมะค่ะ
แต่ถ้ามาช่วงฤดูร้อน แถวนี้หญ้าจะเป็นสีเขียว สวยไปอีกแบบค่ะ
1.4 Cortina d'Ampezzo
เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ของ Dolomiti เลยค่ะ
บรรยากาศออกไปทางแนวสวิสเซอร์แลนด์มากกว่าอิตาลี
เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะ
ที่นี่มีที่พัก ร้านอาหาร เยอะ
แต่ๆๆๆ อย่างที่บอกว่าเราไปช่วงที่เค้าปิดกัน เมืองเงียบมาก
มีร้านอาหารไม่กี่ร้านที่เปิด หาของกินยากพอสมควร
นี่แหละความเหงาที่แท้ทรู
ช่วงเช้า พระอาทิตย์ขึ้น มีหมอกนิดๆ คงสวยงามมากที่นี่ |
2. Florence
เป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสคานี เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ วิหาร และหอศิลป์ อีกทั้งโบราณสถานที่สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ให้ชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยงานศิลปะยุคเรอเนสซองส์การเดินทาง
แนะนำให้เดินทางโดยรถไฟหรือรถสาธารณะ ลงสถานี Firenze Santa Maria Novella (Florence SMN)
เพราะเป็นเขตเมืองที่มี ZTL (เขตห้ามรถเข้า) เกือบทั้งเมือง
ถ้าเผลอขับเข้าไป โดนปรับหนักมากค่ะ ส่งใบสั่งมาถึงเมืองไทยเลยทีเดียว
Landmark ของเมืองนี้คือ Duomo di Firenze ไม่ว่ามองจากมุมไหนของเมืองก็จะเห็นโบสถ์นี้ค่ะ
หอระฆัง Campanile di Giotto หอระฆังความสูง 414 ขั้น ทั้งแคบทั้งชัน ต้องอาศัยแรงขาของตัวเองล้วนๆ ไม่มีลิฟท์ ไม่มีบันไดเลื่อนใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ
![]() |
Campanile di Giotto |

และให้พกน้ำใส่ขวดขึ้นไปจิบด้วยเพราะจะเหนื่อยมาก และคอแห้งมาก ข้างบนไม่มีน้ำ ไม่มีของขาย ต้องเตรียมขึ้นไปเองค่ะ
Giardino Bardini
สวนแห่งนี้เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งค่ะ แต่อาจจะไม่ดังเท่าจตุรัสมิเคลลันเจลโล และเสียค่าใช้จ่ายคนละ 8 ยูโร
![]() |
credit: www.gardenvisit.com ช่วงสงกรานต์มี wisteria งาม |
![]() |

นอกจากวิวที่สวยแล้ว สวนนี้ยังมีเป๊บซี่ใส่น้ำแข็งขายด้วยค่ะ อากาศร้อนๆ ได้เป๊บซี่เย็นๆ ดีงามมากจริง
ช่วงที่เราไปคือปลายเมษายน นักท่องเที่ยวล้นทะลัก ก็จะเจอภาพแบบนี้ค่ะ คนๆๆๆๆๆๆๆๆ คนเต็มไปหมดเลย
ถึงคนจะเยอะ อากาศก็ร้อน แต่ชาวฟิเรนเซ่ก็ชิลกันได้
3. La Spezia: Cinque Terre

การเดินทาง
ขึ้นรถไฟที่สถานี La Spezia
เราไปช่วง ก.ค. กลางฤดูร้อนเลยค่ะ ร้อนสุดๆ Dress code ของคนที่นั่นคือเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น
เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยววัยรุ่นเยอะ สดใส คึกคักมาก
![]() |
ถ้าดูใกล้ๆ ตึกจะดูเก่าๆ สีลอกๆ |
เมืองที่ตั้งของสถานีรถไฟที่ขึ้นไป Cinque Terre ค่ะ
เดือน ก.ค. ดอกไม้สวยงาม อากาศดีค่ะ
Venezia เมืองแห่งสายน้ำ เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย
สวยงาม โรแมนติก ส่วนเราชอบเมืองนี้จากหนังเรื่อง The Tourist สนุกมาก ฉากเมืองเวนิสก็สวยด้วย
การเดินทาง
รถไฟ ลงที่สถานี Venezia Santa Lucia
ส่วนรถบัส และรถยนต์ ต้องลงที่เค้าเรียกกันว่า piazzale roma
จากนั้นการเดินทางในเกาะ ต้องเดิน ไม่ก็ซื้อตั๋วเรือ ACTV รายเที่ยวเที่ยวละ 7 ยูโร แต่ถ้าเหมาจ่าย 24 ชม. ราคา 20 ยูโร
ถ่ายจาก Ponte dell'Accademia |
Rialto Bridge |
คนเยอะแค่ไหนถามใจเธอดู |
5. Siena

เครื่องปั้นดินเผาเป็นสินค้าดังของเมืองนี้ค่ะ จะเห็นวางขายเต็มไปหมด
เหมาะกับการซื้อไปเป็นที่ระลึกค่ะ
แนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกกว่าค่ะ
มีที่จอดรถอยู่ใกล้ๆ ประตูเมือง แต่ระวังอย่าขับเลยนะคะ ไม่งั้นเจอเขต ZTL แล้วจะโดนปรับ
เนื่องจากเมืองนี้อยู่สูง วิธีเข้าเมืองเลยเก๋ไก๋ คือขึ้นบันไดเลื่อนไปค่ะ
ระหว่างทางไปเมือง Siena เราใช้เส้น SR222 เป็นเส้นทางมีชื่อเสียงสำหรับชมวิวค่ะ
วิวไร่องุ่น สลับทิวต้นสน |
ที่พักแนะนำแถว Chianti นะคะ เป็นแนว Farmstay แต่เหมาะสำหรับคนขับรถไปค่ะ เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะ
เราพักที่ Castello di Bibbione, Chianti
อยู่ห่างจากตัวเมือง Florence 30 กม. ค่ะ
ราคาถ้าเทียบกับห้อง อาหารเช้า Facilities ต่างๆ แล้ว
เราว่าคุ้มมากๆ ค่ะ
ครบที่ 5 ที่แล้วนะคะ น่าจะพอเป็นไอเดียสำหรับการท่องเที่ยวอิตาลี โดยเฉพาะคนที่ลงเครื่องที่มิลาน
------------------------------------------------------
✅เช่า Pocket Wifi ใช้ได้ทั่วยุโรป รับเครื่องคืนเครื่องได้ที่สุวรรณภูมิ วันละ 180 บาท ➨ http://bit.ly/2WVQCnC
✅ ซื้อ sim ยุโรปราคาถูกสุด 765 บาท 6 GB 15 วัน รับที่สยามหรือสุวรรณภูมิ ➨ http://bit.ly/2WMNF8y
เมื่อใช้ส่วนลด LETSKLOOK